เสี่ยเค้ก “ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” สบายใจได้ สรรพากรยันแล้วไม่ได้รีดภาษีตามข่าวลือ
08-28 HaiPress
เสี่ยเค้ก เจ้าของ “ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง”สบายใจได้ สรรพากรยืนยันกับเดลินิวส์ แล้ว ไม่มีการตรวจสอบรายได้ และรีดภาษีเป็นกรณีพิเศษ แต่ย้ำทุกคนหากมีรายได้ถึงเกณฑ์ จะต้องยื่นเสียภาษีตามกำหนด
จากกรณีนายรังสรรค์ สุวรรณศร หรือเสี่ยเค้ก เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวชื่อดัง “ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” ย่านหมู่บ้านกฤษดานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งพ่อค้ารายนี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมักจะสวมใส่ทองเส้นใหญ่เท่าโซ่ เหลืองอร่ามเต็มคอและข้อมือ อีกทั้งยังเป็นพ่อค้าใจดี ติดป้ายที่หน้าร้านไว้ว่า “สตรีมีครรภ์ คนจน คนไร้ที่พึ่งขอกินฟรีได้ตลอด”
แต่ที่ผ่านมา กลับมีกระแสข่าวจากบางสื่อระบุว่า เสี่ยเค้กงานเข้าสรรพากรจะลงมาตรวจสอบเส้นทางการเงินของเสี่ยเค้ก ที่ร่ำรวยผิดปกติ จากเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ได้สอบถามไปยังกรมสรรพากร โดยได้รับการยืนยันว่า กรมสรรพากร ไม่ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินเสี่ยเค้ก หรือเรียกเก็บภาษีจากการใส่สร้อยทองขนาดใหญ่ เป็นการพิเศษแต่อย่างใด จึงขอให้เสี่ยเค้ก สบายใจได้
อย่างไรก็ตาม ทางสรรพากรขอย้ำเตือนถึงประชาชนคนไทยทุกคน ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ โดยมีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 120,000 บาท หรือเดือนละ 10,000 บาท มีหน้าที่ต้องทำการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยยื่นแบบแสดงรายการปีละครั้ง ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม กรณีมีเงินได้สิทธิ 1-150,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาท(อัตราภาษี 5%)เงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาท(อัตราภาษี 10%)เงินได้สุทธิ 500,001-750,000 บาท(อัตราภาษี 15%)เงินได้สุทธิ 750,001-1,000,000 บาท (อัตราภาษี 20%)เงินได้สุทธิ 1,001-2,000 บาท(อัตราภาษี 25%)เงินได้สุทธิ 2,001-5,000 บาท(อัตราภาษี 30)เงินได้สุทธิมากกว่า 5 ล้านบาท(อัตราภาษี 35%)
ส่วนกรณีมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีต้องจด VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากผู้ประกอบการมีรายรับจากการขายสินค้า หรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ให้ยื่นคำขอจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.01) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รายรับเกิน