ททท. คาดลอยกระทงคึกคัก ชาวไทยแห่เที่ยว 1.99 ล้านคน-ครั้ง ชี้นทท.ไปเหนือมากสุด
11-11 HaiPress
ททท. คาดลอยกระทงคึกคัก ชาวไทยแห่เที่ยว 1.99 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 6,990 ล้านบาท ชี้นทท.ไปเหนือมากสุด
น.ส.ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เปิดเผยว่าสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทงปี2567 คาดว่าจะยังคงมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นแม้ว่าหลายจังหวัดมีจำนวนวันจัดงานน้อยกว่าปีที่ผ่านมาแต่เนื่องจากปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ติดกับวันหยุดสุดสัปดาห์จึงเป็นแรงหนุนให้นักท่องเที่ยวออกมาร่วมงานลอยกระทงมากขึ้นและต่อเนื่องไปถึงการเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดโดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ1.99ล้านคน-ครั้งเพิ่มขึ้น9%และก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 6,990ล้านบาทเพิ่มขึ้น12%
ทั้งนี้เมื่อแบ่งเป็นรายภูมิภาค คาดว่า ภาคเหนือจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยมากสุด จำนวน 5.68 แสนคน-ครั้งเพิ่มขึ้น 7% รองลงมาคือ ภาคกลางรวมภาคตะวันตก จำนวน 3.80 แสนคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2% และกรุงเทพมหานคร มีจำนวน 3.30 แสนคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่ภูมิภาคที่สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวมากที่สุด คือ ภาคเหนือ สร้างรายได้ 2,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% รองลงมา คือ กรุงเทพมหานคร 1,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 และภาคตะวันออก 1,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ไฮไลต์ที่ ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมเทศกาลลอยกระทงระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย. 2567 ยังคงเป็นบริเวณคลองผดุงกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์ สีสันแห่งศรัทธา” Amazing Night of lights : Loi Krathong Festival โดยสร้างสรรค์กิจกรรมบนรากฐานวัฒนธรรม ผสานความทันสมัยของสื่อผสมและเทคโนโลยีเพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ และทรงคุณค่าอย่างวิถีไทย พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 3.30 แสนคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 7% และมีรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 1,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%
สำหรับ 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย (ระหว่างวันที่ 8-17 พ.ย. 2567), งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จ.ตาก (ระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย. 2567), งานประเพณีเดือนยี่เป็ง จ.เชียงใหม่ (ระหว่างวันที่ 12-15 พ.ย. 2567), ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม (ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย. 2567) และประเพณีสมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป จ.ร้อยเอ็ด (ระหว่างวันที่ 14-15 พ.ย. 2567) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่จัดงานทั้ง 5 พื้นที่ ประมาณ 3.30 คน-ครั้ง
สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว1,364ล้านบาทโดยมีเชียงใหม่และสุโขทัยเป็นพื้นที่จัดงานที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและรายได้ทางการท่องเที่ยวสูงสุดเนื่องจากเป็นพื้นที่ยอดนิยมของคนไทยและเริ่มมีสภาพอากาศที่เย็นลง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้คนไทยกลุ่มที่มีกำลังซื้อน้อยระมัดระวังการใช้จ่าย และอาจเก็บเงินไปใช้ในเดือน ธ.ค. ซึ่งมีวันหยุดหลายช่วง ประกอบกับฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่มาพร้อมกับฤดูหนาว ซึ่งจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าในเดือน พ.ย. 2567 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มว่าค่าฝุ่นจะเพิ่มสูงขึ้นและมีโอกาสจะเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อาจทำให้ประชาชนบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็ก งดหรือหลีกเสี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน